Subaru Wrx

2014 Subaru WRX รถ 4 ประตูตัวจิ๊ดสายพันธ์แรลลี่จากเกาะญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงรถแรลลี่สี่ประตูแล้วเราจะนึกถึงชื่อของรถคู่หูคู่กัดอยู่ได้แก่ Mitsubishi Evolution และ Subaru Impreza WRX STi ซึ่งหลังจากที่ขับเคี่ยวกันมานานหลายสิบปีในที่สุดคู่แข่งฝั่งมิตซูก็ได้เพลี้ยงพล้ำด้วยที่รถในกลุ่มนี้เริ่มไม่ค่อยคุ้มที่จะพัฒนารุ่นใหม่ต่อจึงได้ปิดไลน์อัพและลาวงการไป แต่ฝั่งซูบารุเองยังคงต้องการพัฒนารถในกลุ่มนี้ต่อไปและก็ต้องการแยก Impreza ให้กลายเป็นรถ 4 ประตูสมรรถนะสูงที่ไม่ใช่แรลลี่จ๋าแบบทุกวันนี้จึงได้แยกไลน์ออกมาเป็น WRX โดยที่ยังคงมีตัวแรงสุดในรหัส STi ต่อไป โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 โดยทำการตลาดด้วย 2 เครื่องยนต์ สำหรับ WRX ธรรมดาจะได้เครื่องบ๊อกเซอร์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ และรุ่น STi จะได้เครื่องบ๊อกเซอร์ 2.5 เทอร์โบ ซึ่งในประเทศไทยเองได้มีการเปิดตัวครบทั้ง 3 รุ่นย่อย หลังจากนั้นในญี่ปุ่นเองก็ได้ทยอยเปิดรุ่นตกแต่งพิเศษเรื่อยมาแต่ไม่ได้มีการนำมาทำตลาดในประเทศไทยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม WRX เจนเนอเรชั่นที่สองซึ่งเป็นรุ่นใหม่น่าจะเปิดตัวภายในปี 2022 นี้

ราคา Subaru WRX

Subaru WRX 6MT AWD ราคา 2,640,000 บาท
Subaru WRX CVT AWD ราคา 2,740,000 บาท
Subaru WRX STi 6MT AWD ราคา 3,350,000 บาท

การออกแบบภายนอก

สำหรับรุ่น WRX โมเดลปัจจุบันจะมาในรูปแบบตัวถังแบบซีดาน 4 ประตูเพียงรูปแบบเดียวไม่ได้มีตัวถังแบบแฮชแบค 5 ประตูพ่วงมาด้วยแบบ Impreza WRX โมเดลก่อนหน้านี้ ซึ่งสำหรับโมเดลนี้จะมีความเป็นเหลี่ยมสันมากขึ้นโดยหน้าตาคล้ายกับรถแวนภายในค่ายอย่าง Levorg มากกว่า Impreza ที่เป็นเชื้อสายของมันมากกว่าเสียอีก โดยทั้ง WRX และ WRX STi มาพร้อมช่องดักลมบนฝากระโปรงหน้าทุกรุ่น กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมรมดำ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟเดย์ไทม์เป็นรูปตัว C รับเข้ากับมุมโคม มีช่องดักลมบริเวณชายล่างตรงกลางและด้านซ้ายขวาพร้อมไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอกติดตั้งอยู่ สำหรับรุ่น STI จะมีสเกิร์ตสีดำติดอยู่รอบคันเพิ่มเข้ามาและโลโก้ STi บริเวณกระจังหน้า สำหรับโฉมนี้แฟนคลับซูบารึในไทยเรียกกันว่า รุ่นหน้าเสือ ซึ่งดูไปดูมามันดุกว่ารุ่นก่อนมากพอสมควร ด้านข้างให้ความรู้สึกเหมือนรถซีดานบ้านทั่วไปสักหน่อย กระจกข้างถูกติดตั้งอยู่บนบานประตูคู่หน้า มีแถบไฟเลี้ยวข้างอยู่บริเวณหลังซุ้มล้อหน้า บานจับประตูสีเดียวกับตัวรถ แต่สิ่งที่จะทำให้ด้านข้างดูเด่นขึ้นมาคือล้อรถ ซึ่งรุ่นธรรมดาจะให้ล้อขนาด 17 นิ้ว สีดำเงา 10 ก้าน และสำหรับรุ่น STi จะมาพร้อมล้อลายซี่สีดำขนาด 18 นิ้วซึ่งเป็นลายสำหรับ STi ที่วางขายทั่วโลก หลายคนแอบเสียดายที่ไม่ใช่สีทองซึ่งจะตัดกับสี World Rally Blue Pearl ซึ่งเป็นสีตัวถังประจำ STi ด้านท้ายมาพร้อมก้อนไฟเบรกทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่และมีไฟหรี่เป็นรูปตัว C เช่นกัน ท่อไอเสียเป็นท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง ทุกรุ่นดูสปอร์ตดุดัน แต่ที่ต่างกันคือสปอยเลอร์โดยของ WRX จะเป็นแบบตูดเป็ดเสริมขึ้นมาจากฝากระโปรงหลังขณะที่ STi จะเป็นสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ไว้ดักลมไว้กดตัวถังได้อย่างเต็มที่เลย ดีไซน์ของ WRX ทุกรุ่นเรียกได้ว่าเน้นความสปอร์ตอย่างเด่นชัดและมีการเสริมความโหดมากขึ้นอีกหน่อยในรุ่น STi 

มิติตัวรถ

การออกแบบภายใน

สำหรับภายในการวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆเรียกได้ว่าเหมือนกันแทบทุกอย่างซึ่งยกมาจาก Levorg เช่นกัน ส่วนที่ต่างจะต่างก็ตรงรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ กับวัสดุที่ใช้กับเบาะที่ต่างกัน โดยเบาะเป็นเบาะแบบบัคเก็ตขนาดใหญ่ที่ไม่ได้โอบรัดมากแบบที่ใช้กับรถแข่งโดยยังให้ความสบายได้ โดยตัวเบาะจะเป็นสีดำเดินตะเข็บแดง และสำหรับรุ่น STi จะมีการเสริมหนังสีแดงบริเวณปีกเบาะทั้งเบาะหน้าและเบาะหลังเสริมความสปอร์ตให้ภายในห้องโดยสาร การเปิดประตูทำได้กว้างทั้งประตูหน้าและหลังซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานสำหรับครอบครัวอยู่ เบาะหลังสามารถพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่การบรรทุกของ พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ตูดตัดเดินด้ายแดงซึ่งเป็นทรงเดียวกันทั้งรุ่นธรรมดาและ STi แต่ STi จะมีโลโก้แปะอยู่ด้วย มาตรวัดเป็นแบบอนาล็อกเข็มแบบเรืองแสงโดยมีวงวัดรอบและวัดความเร็วพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ตรงกลาง ซึ่งทุกรุ่นมาตรวัดเหมือนกันเป๊ะ บริเวณเหนือคอนโซลกลางจะมีจอขนาด 3.5 นิ้วไว้แสดงข้อมูลอุณภูมิในห้องโดยสารกับอีกฝั่งไว้แสดงข้อมูลของรถเช่น ระบบขับเคลื่อน บูสต์เทอร์โบ แรงจี เป็นต้น เครื่องเสียงใช้แบบ 2 Din ที่เป็นจอแสดงข้อมูลธรรมดาไม่ใช่จอแบบสัมผัสพร้อมปุ่มปรับความบันเทิงสารพัด ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับแอร์ขนาดใหญ่ใช้งานง่าย มีช่องใส่ของไว้วางพวกมือถือถัดลงมา บริเวณคอนโซลเกียร์สำหรับรุ่น STi จะเป็นสีดำเงาพร้อมโลโก้ หัวเกียร์สีแดง และมีปุ่มปรับโหมดการขับ SI-Drive อยู่ถัดมาจากเกียร์ สำหรับรุ่น WRX คอนโซลเกียร์จะเป็นสีเงินหัวเกียร์สีดำทั้งเกียร์ธรรมดาและ CVT เบรคมือแบบดึงขนาดใหญ่ไว้จับทำพาวเวอร์สไลด์ถนัดมือแน่นอน มีช่องใส่แก้วน้ำให้ 2 ช่อง โดยรุ่น STi จะมีเขี้ยวล็อคแก้วน้ำให้ด้วย การออกแบบภายในเน้นใช้งานมากกว่าเน้นสวยงาม

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก

กุญแจรถของเจ้า WRX CVT และ STi จะได้เป็นแบบ Keyless Entry ที่ไม่ต้องหยิบกุญแจออกมาแค่จับมือเปิดรถก็จะปลดล็อคประตูให้ กระจกมองข้างแบบปรับไฟฟ้า ชุดเครื่องเสียงแบบ 6 ลำโพง รองรับการเล่น CD /MP3 /Aux และรองรับบลูทูธกับมือถือได้ กระจกมองหลังตัดแสงแบบปรับมือ ระบบปรับโหมดการขับขี่ SI-Drive ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control

ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive safety)

• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS)
  
• ระบบควบคุมการทรงตัว (VDC)
  
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS)
  
• ระบบถ่ายเทแรงบิด (Active Torque Vectoring)
  
• ถุงลมคู่หน้า / ด้านข้าง
  

ขุมพลังและสมรรถนะ

ขุมพลังสำหรับรุ่น WRX มาพร้อมกับเครื่องบ๊อกเซอร์ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พ่วงด้วยเทอร์โบชาร์จมาในรหัสเครื่อง FA20DIT สามารถให้แรงม้าได้สูงสุด 268 แรงม้า ที่ 5600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 2000 - 5200 รอบ/นาที สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 250 กม./ชม. และสำหรับตัวแรง STi จะมาพร้อมความจุเครื่องที่ใหญ่กว่าที่ 2.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเช่นกันในรหัสเครื่องอันคุ้นเคยจาก STi ตัวก่อน EJ257 โดยสามารถสร้างกำลังได้แรงม้า 300 แรงม้า ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 407 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบ/นาที ซึ่งเท่ากับ Impreza WRX STi ตัวเก่าแบบพอดิบพอดี การทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. สามารถทพได้ภายใน 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 254 กม./ชม. สำหรับอัตราสิ้นเปลืองสำหรับ WRX ตัวปกติสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ 10.9 กม./ลิตร อัตราการปล่อยไอเสียอยู่ที่ 218 กรัม/กม. และสำหรับตัวแรง STi อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยทำได้ 9.8 กม./ลิตร และอัตราการปล่อยไอเสียอยู่ที่ 243 กรัม/กม.

ประสบการณ์การขับขี่

สำหรับรุ่น WRX การตอบสนองของเครื่องยนต์บูสต์ติดไวทำให้การขับสนุกและเร่งได้เร็วกว่าที่คิดไว้ รุ่นเกียร์ธรรมดาตอบสนองได้ดีตามที่คนขับสับเกียร์เองเลย รุ่น CVT ของซูบารุก็ขับได้สนุกเช่นกันแต่ถ้าจะเร่งจาก 0 - 100 ช่วงที่เพิ่งเริ่มออกตัวจะมีอาการยานนิดหน่อยตามประสาเกียร์ CVT แต่หลังจาก 60 กม./ชม. ขึ้นไปแล้วความสนุกและเร็วก็ไม่ได้แพ้รุ่นเกียร์ธรรมดาเลย การเร่งแซงทำได้น่าประทับใจไวกว่าตัวก่อนที่เป็น Impreza อยู่ระดับนึง ซึ่งพอเป็นรุ่น STi ก็ยิ่งเร็วเข้าไปอีกแบบหลังติดเบาะกันเลยทีเดียว ช่วงล่างให้ความรู้สึกหนึบและให้ความเสถียรเวลาวิ่งที่ความเร็วสูงมากขึ้น สำหรับการมุดหรือหักเลี้ยวไปมาก็ยังให้ความมั่นใจอยู่ ซึ่งเวลาใช้งานทั่วไปคุณจะรู้สึกว่าไม่ว่ารุ่นไหนช่วงล่างมันแข็งหมดเลย แสดงถึงการออกแบบมาเพื่อซิ่งหรือขับแบบแรลลี่จริงๆ แต่ปัญหาจริงๆของรถรุ่นนี้คือเบรค สำหรับ STi ที่เบรคใหญ่กว่าอาจไม่ใช่ปัญหาแต่สำหรับรุ่น WRX ธรรมดาทั้ง2รุ่น เบรคเหมือนจะเล็กไปถ้าเทียบกับประสิทธิภาพของรถที่ทำได้ การขับมาเร็วๆแล้วจะเบรคให้ความรู้สึกไหลมากเกินไปเหมือนเบรคจะเอาไม่อยู่ ซึ่งถือว่าค่อนข้างอันตราย ต้องลองกะระยะเผื่อไว้ให้รถได้เบรคบ้างถ้าชอบขับแบบเร็วๆแล้วมาเบรคกระทันหัน หรือไม่งั้นหาเบรคของรุ่น STi มาใส่ก็น่าจะจบปัญหานี้ได้แบบตรงรุ่น

ความสะดวกสบายในการโดยสาร

สำหรับเจ้า WRX ให้เบาะแบบบัคเก็ตซีทมาแต่ก็เป็นบัคเก็ตซีทที่นั่งสบายระดับหนึ่งตราบใดก็ตามที่รถยังไม่เคลื่อนที่ออกไป เมื่อเคลื่อนที่ออกไปแล้วด้วยความที่ช่วงล่างรถมันแข็ง เรียกได้ว่านอกจากคนขับกับคนนั่งที่ชอบซิ่งแล้ว ผู้โดยสารคนอื่นไม่น่ามีใครแฮปปี้เท่าไหร่ พนักพิงศีรษะแข็งพอควรควรพิงหัวด้วยความระมัดระวัง พื้นที่วางขาโอเค ไม่ได้อึดอัดอะไร เครื่องเสียงใช้ได้ในระดับทั่วไป

Subaru WRX คือรถซีดานที่ยังคงจิตวิญญาณของการเป็นรถซิ่งไว้อย่างดี ด้วยการที่ยังคงรุ่นหลักเป็นเกียร์ธรรมดาไว้ สำหรับรุ่น WRX ที่ใช้เครื่อง 2.0 เทอร์โบเครื่องยนต์ให้เรี่ยวแรงดี ขับสนุก จะเสียก็ตรงเบรคที่ยังไม่ค่อยให้ความมั่นใจเท่าที่ควร ส่วนรุ่น STi น่าเสียดายที่ยังเป็นเครื่องเดิมจากเจนที่แล้วแรงม้าก็เท่าเดิม แต่การขับขี่เรียกได้ว่าให้ความมั่นใจมากขึ้นมีระบบช่วยเหลือที่จะทำให้การจ่ายแรงลงล้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ถ้าใครมองหารถซิ่งพลังสูงในคราบรถบ้านที่ยังมีเกียร์ธรรมดาให้เลือกซึ่งนับวันยิ่งน้อยรุ่นลงไปทุกที เจ้านี่เป็นคำตอบอย่างดีและเก็บไว้ราคาน่าจะแข็งพอตัว