อิดรีส
ชื่อของนบีอิดรีสเขียนด้วยภาษาอาหรับ ตามด้วยวลี "ขอความสันติจงมีแด่ท่าน" | |
เกิด | เมโสโปเตเมีย, อิรัก |
ตำแหน่ง | นบี |
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อน | ชีษ |
ผู้สืบตำแหน่ง | นูห์ |
อิดรีส (อาหรับ: إدريس, อักษรโรมัน: ʾIdrīs) เป็นนบีที่ได้รับการกล่าวถึงในคัมภีร์กุรอาน ชาวมุสลิมเชื่อว่าเป็นนบีคนที่สามถัดจากชีษ[1][2] ท่านเป็นนบีคนที่สองที่กล่าวถึงในอัลกุรอาน ธรรมเนียมอิสลามระบุอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าอิดรีสเป็นบุคคลเดียวกันกับเอโนคในพระคัมภีร์ไบเบิล[3][4] แต่นักวิชาการมุสลิมหลายคนในยุคซะลัฟและยุคเคาะลัฟยังถือว่าอิดรีสเป็นบุคคลเดียวกันกับเฮร์แมส ตริซเมกิสโตส บุคคลในตำนานของกรีซโบราณ หรือธอธซึ่งเป็นเทพของอียิปต์โบราณ[5][6]
อัลกุรอานบรรยายอิดรีสว่าเป็นผู้มี "ความน่าเชื่อถือ" และ "ความอดทน"[7] และยังกล่าวอีกว่าท่าน "ได้รับการยกย่องให้อยู่ในตำแหน่งที่สูง"[8][9] ด้วยเหตุนี้และความคล้ายคลึงกันอื่น ๆ ตามคำกล่าวนี้แล้ว จึงมีการเชื่อมโยงอิดรีสกับเอโนคในไบเบิล[10] และนักวิชาการของอิสลามมักจะจัดให้อิดรีสอยู่ในยุคแรก และถือว่าท่านเป็นหนึ่งในบรรดานบีที่เก่าแก่ที่สุดที่กล่าวถึงในคัมภีร์กุรอานโดยวางเขาไว้ระหว่างอาดัมกับนูห์[11]
ตาม ฮะดีษ ที่อิมาม มาลิก บิน อะนัส บรรยายไว้ และที่พบใน เศาะฮีห์มุสลิม นั้น ในอิสรออ์และเมียะอ์รอจญ์ของนบีมุฮัมหมัด ท่านพบนบีอิดรีสในชั้นฟ้าที่ 4
เชื้อสายของท่าน
[แก้]อิบน์ เญาซี กล่าวถึงเชื้อสายของท่านว่า: อิดรีส (อะลัยฮิสสะลาม) มีชื่อจริงว่า เคาะนูค อิบน์ ยัรด์ อิบน์ มะฮ์ลาอีล อิบน์ ก็อยนาน อิบน์ อะนูช อิบน์ ชีษ อิบน์ อาดัม (อะลัยฮิมัสสะลาม) และ อัซซุบัยร์ อิบน์ บักการ กล่าวว่า: อิดรีส อิบน์ ยาริด อิบน์ มะฮ์ลาอีล อิบน์ กีนาน อิบน์ ฏอฮิร อิบน์ ฮุบบะฮ์ หรือว่า ชีษ อิบน์ อาดัม และถูกเรียกว่า อิดรีส เหนื่องจาก ท่านได้เรียนรู้การเขียน[12]
ในคัมภีร์กุรอาน
[แก้]นบีอิดรีส (อ.ล.) ได้รับการกล่าวถึงในอัลกุรอาน 2 ครั้ง
และจงกล่าวถึงเรื่องของอิดรีสที่อยู่ในคัมภีร์ แท้จริงเขาเป็นผู้ซื่อสัตย์ เป็นนบี และเราได้เทิดเกียรติเขาซึ่งตำแหน่งอันสูงส่ง
— ซูเราะฮ์ มัรยัม บทที่ 19 โองการที่ 56-57
ในซูเราะฮ์ มัรยัม กล่าวว่า นบีอิดรีสเป็นนบีและเป็นผู้ซื่อสัตย์ และพระองค์ทรงเทิดท่านให้สูง ในตัฟซีรกล่าวว่า เทิดเกียรติให้สูง หมายถึง พระองค์ทรงยกท่านขึ้นไปยังชั้นฟ้าที่ 4 มีการตีความสองแบบ อย่างแรกคือ ได้รับการยกขึ้นไปและยังมีชีวิตอยู่ถึงปัจจุบัน อย่างที่สองคือยกขึ้นไปและเสียชีวิต
และอิสมาอีล อิดรีส และษูลกิฟล์ แต่ละคนอยู่ในหมู่ผู้อดทนขันติ และเราได้ให้พวกเขาเข้าอยู่ในความเมตตาของเรา แท้จริงพวกเขาอยู่ในหมู่คนดีมีคุณธรรม
— ซูเราะฮ์ อัมบิยาอ์ บทที่ 21 โองการที่ 85 และ 86
เรื่องราวตรงนี้ทำให้รู้ว่านบีอิดรีสและคนอื่น ๆ นี้เป็นผู้ที่มีความอดทนสูง
เรื่องเล่า
[แก้]ตามงานเขียนของมุสลิมในยุคต่อมา อิดรีสเกิดในเมโสโปเตเมียซึ่งเป็นดินแดนอิรักปัจจุบัน ก่อนที่ท่านจะได้รับการวะฮีย์ ท่านปฏิบัติตามกฎที่วะฮีย์ต่อนบีชีษบุตรชายของนบีอาดัม เมื่ออิดรีสโตขึ้น อัลลอฮ์ประทานความเป็นนบีแก่ท่าน ในช่วงชีวิตของท่านทุกคนยังไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม หลังจากนั้น อิดรีสก็ออกจากบาบิโลนบ้านเกิดของเขา เพราะมีคนจำนวนมากทำบาปมากมาย แม้ว่าท่านจะบอกพวกท่านว่าอย่าทำเช่นนั้นก็ตาม คนของท่านบางคนจากไปพร้อมกับอิดรีส
พวกเขาถามนบีอิดรีสว่า "ถ้าเราออกจากบาบิโลน เราจะหาสถานที่เช่นนี้ได้ที่ไหน" นบีอิดรีสกล่าวว่า "หากเราอพยพเพื่ออัลลอฮ์ พระองค์จะทรงเลี้ยงดูเรา" ดังนั้นผู้คนจึงไปกับนบีอิดรีสและพวกท่านก็มาถึงแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาเห็นแม่น้ำไนล์ นบีอิดรีสยืนอยู่ที่ริมฝั่งและกล่าวถึงอัลลอฮ์ผู้ทรงสูงส่งโดยกล่าวว่า: “ศุบฮานัลลอฮ์”
เรื่องเล่าอิสลามเล่าว่า นบีอิดรีสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนบีเมื่อประมาณอายุ 40 ปี ซึ่งตรงกับยุคที่มุฮัมมัดเป็นนบี และอาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มบูชาไฟ นักตัฟซีรเล่าในช่วงชีวิตของนบีอิดรีส และกล่าวว่า นบีแบ่งเวลาของเขาออกเป็นสองส่วน เป็นเวลาสามวันในสัปดาห์ นบีอิดรีสจะประกาศแก่ผู้คนของท่าน และอีกสี่วัน ท่านจะอุทิศให้กับการนมัสการอัลลอฮ์เพียงอย่างเดียว นักตัฟซีรหลาย ๆ คน เช่น อิมาม มุฮัมมัด อิบน์ ญะรีร อัฏเฏาะบารี กล่าวว่า นบีอิดรีสว่ามีสติปัญญาและความรู้ที่ยอดเยี่ยม
นักตัฟซีรอธิบายว่า นบีอิดรีส เป็นหนึ่งใน "มนุษย์กลุ่มแรกที่ใช้ปากกาและเป็นหนึ่งในมนุษย์กลุ่มแรก ๆ ที่สังเกตการเคลื่อนที่ของดวงดาวและกำหนดน้ำหนักและมาตราส่วนทางวิทยาศาสตร์" คุณลักษณะเหล่านี้ยังคงสอดคล้องกับการระบุตัวตนของเอโนคกับนบีอิดรีส เนื่องจากคุณลักษณะเหล่านี้ทำให้ชัดเจนว่า นบีอิดรีสน่าจะมีชีวิตอยู่ในช่วงรุ่นแรก ๆ ของอาดัม ยุคเดียวกับที่เอโนค อาศัยอยู่อิบน์ อะรอบีย์ อธิบายว่า นบีอิดรีสเป็น "นบีแห่งนักปรัชญา" และผลงานจำนวนหนึ่งได้มาจากเขา นักวิชาการบางคนเขียนคำอธิบายเกี่ยวกับผลงานที่ควรจะเป็นเหล่านี้ในขณะที่นบีอิดรีสยังได้รับการยกย่องจากสิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง รวมถึงศิลปะการทำเสื้อผ้าด้วย
นักประวัติศาสตร์อย่างอิบน์ อิสฮาก อธิบายว่า ท่านเป็นชายคนแรกที่เขียนด้วยปากกาและท่านเกิดในขณะที่อาดัมยังมีชีวิตอีก 308 ปีที่จะมีชีวิตอยู่ ในคำอธิบายของเขาเกี่ยวกับอัลกุรอาน โองการที่ 19:56-57 อิบน์ กะษีร นักตัฟซีรได้บรรยายว่า "ระหว่างการเดินทางกลางคืน ท่านนบีได้ผ่านท่านไปยังชั้นฟ้าชั้นที่สี่ ในฮะดีษของอิบน์ อับบาส ได้ถามกะอบ์ถึงความหมายของอายะฮ์ที่กล่าวว่า “และเราได้ยกเขาขึ้นสู่ที่สูง” กะอบ์อธิบายว่า: อัลลอฮ์ทรงวะฮีย์แก่นบีอิดรีส: 'ข้าจะเพิ่มผลงานของลูก ๆ ของอาดัมให้กับเจ้าทุกวันในจำนวนที่เท่ากัน' - บางทีอาจหมายถึงเวลาของท่านเท่านั้น ดังนั้น นบีอิดรีสจึงต้องการที่จะเพิ่มพูนการกระทำและความทุ่มเทของท่าน เพื่อนของท่าน มลาอิกะฮ์มาเยี่ยม และนบีอิดรีสกล่าวแก่เขาว่า 'อัลลอฮ์ได้ทรงวะฮีย์แก่ข้าในเรื่องดังกล่าวแล้ว ดังนั้น ท่านช่วยพูดกับมะลาอิกะฮ์แห่งความตายได้ไหม ทูตสวรรค์ได้อุ้มท่านด้วยปีกของท่านและขึ้นไปบนชั้นฟ้า เมื่อพวกเขามาถึงสวรรค์ชั้นที่ 4 พวกเขาได้พบกับทูตสวรรค์แห่งความตายที่กำลังร่อนลงสู่พื้นดิน ทูตสวรรค์พูดกับท่านเกี่ยวกับสิ่งที่นบีอิดรีสเคยพูดกับท่านก่อนหน้านี้ ทูตแห่งความตายกล่าวว่า 'แต่นบีอิดรีสอยู่ที่ไหน' ท่านตอบว่า 'ท่านอยู่บนหลังของข้า' ทูตแห่งความตายกล่าวว่า: 'ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ ! ข้าถูกส่งไปและบอกให้ไปจับวิญญาณของท่าน ในสวรรค์ชั้นที่สี่ ท่านเอาแต่คิดว่า ข้าจะยึดสวรรค์ชั้นที่สี่ได้อย่างไรในตอนที่พระองค์อยู่บนโลก?' แล้วเขาได้เอาวิญญาณของเขาออกจากร่างกายของเขา และนั่นคือความหมายของโองการที่ว่า : 'และเราได้ให้เขามีตำแหน่งสูง'
เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของนบีอิดรีสในช่วงต้นระบุว่า ดังนั้น นักตัฟซีรในยุคแรก ๆ จึงเข้าใจว่านบีอิดรีสเป็นทั้งนบีและเราะซูล นักตัฟซีรสมัยใหม่หลายคนเชื่อมโยงความรู้สึกนี้กับคัมภีร์นอกสารบบในคัมภีร์ไบเบิล เช่นพระธรรมของเอโนคและพระธรรมเล่มที่สองของเอโนค
ตัวตน
[แก้]เอโนค
[แก้]นบีอิดรีสเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเหมือนกับเอโนคผู้ที่อาศัยอยู่ในรุ่นของอาดัม นักตัฟซีรอัลกุรอานหลายคน เช่น อัฏเฏาะบารี, กอฎี อัลบัยฎอวี เป็นต้น ระบุว่านบีอิดรีสคือเอโนค บัยฎอวีย์กล่าวว่า "นบีอิดรีส เป็นลูกหลานของนบีชีษ และเป็นบรรพบุรุษของนบีนูห์ และชื่อของท่านคือ เอโนค หรือในภาษาอาหรับคือ อุคนูค" (อาหรับ: أخنوخ, อักษรโรมัน: Ukhnūkh) คำอธิบายของ Bursalı İsmail Hakkı เกี่ยวกับ Fuṣūṣ al-Ḥikam โดยอิบน์ อะรอบี
อย่างไรก็ตามนักวิชาการสมัยใหม่ไม่เห็นด้วยกับการระบุนี้เพราะพวกเขาโต้แย้งว่าขาดหลักฐานที่ชัดเจน ดังที่อับดุลลอฮ์ ยูซุฟ อาลี ผู้แปลและนักตัฟซีรอัลกุรอาน กล่าวไว้ในหมายเหตุ 2508 เกี่ยวกับการแปลอัลกุรอานของเขา :
นบีอิดรีสถูกกล่าวถึงสองครั้งในอัลกุรอาน ได้แก่ ที่นี่ (19:56-57) และในบทที่ 21 ข้อ 85 ซึ่งเขาถูกกล่าวถึงว่าเป็นผู้ที่อดทน การระบุตัวตนของท่านกับเอโนค ในพระคัมภีร์ไบเบิลอาจถูกต้องหรือไม่ก็ได้ เราไม่มีเหตุผลสมควรในการตีความข้อ 57 ที่นี่ว่ามีความหมายเดียวกับในปฐมกาลข้อ 24 ("พระเจ้ารับเขาไป") ว่าท่านถูกพาขึ้นไปโดยไม่ได้ผ่านมิติแห่งความตาย ทั้งหมดที่เราทราบคือเขาเป็นคนที่พูดความจริงและจริงใจ เป็นนบีและท่านมีตำแหน่งสูงในบรรดาผู้คนของท่าน
— อับดุลลอฮ์ ยูซุฟ อาลี, The Holy Qur'an: Text, Translation and Commentary
ด้วยการระบุตัวตนนี้ บิดาของนบีอิดรีสกลายเป็นบุตรยะรีด (يريد) มารดาของท่านคือบัรกานะห์ และภรรยาของท่านคืออะดานะห์ เมธูเสลาห์ ( มัตตูชาลัค ) เป็นบุตรชายของนบีอิดรีสจะเป็น ซึ่งเป็นปู่ของนบีนูห์ (โนอาห์) ดังนั้นนบีอิดรีสจึงได้รับการระบุว่าเป็นปู่ทวดของนบีนูห์
เฮอร์เมส ทริสเมกิสตุส
[แก้]Antoine Faivre ใน The Eternal Hermes (1995) ได้ชี้ให้เห็นว่า เฮร์แมส ตริซเมกิสโตส (การรวมกันของเทพเจ้าเฮอร์เมสของกรีกและเทพเจ้าธอธของอียิปต์) ในศาสนาอิสลามแม้ว่าชื่อ เฮร์แมส จะไม่ปรากฏในอัลกุรอาน นักเขียนชีวประวัติและนักบันทึกเหตุการณ์ในศตวรรษแรกของฮิจญ์เราะห์ศักราช ระบุว่าเฮร์แมส ตริซเมกิสโตส คืออิดรีสอย่างรวดเร็วในซูเราะฮ์ 19.56-57 และ 21.85 ซึ่งชาวอาหรับระบุด้วยเอโนค (เปรียบเทียบ ปฐมกาล 5.18–24) อิดรีส/เฮอร์เมส ถูกเรียกว่า เฮร์แมส ตริซเมกิสโตส "Thrice-Wise" เนื่องจากเขามีต้นกำเนิดสามประการ เฮร์แมสคนแรกเทียบได้กับธอธเป็น "วีรบุรุษที่มีอารยธรรม" ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มเข้าสู่ความลึกลับของวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้โลกมีชีวิตชีวา เขาสลักหลักการของศาสตร์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ในอักษรอียิปต์โบราณ เฮร์แมสองค์ที่สองในบาบิโลนเป็นผู้ริเริ่มพีทาโกรัส เฮร์แมสที่สามเป็นครูคนแรกของการเล่นแร่แปรธาตุ "นบีไร้ใบหน้า" ปีแยร์ ลอรี ผู้นับถือศาสนาอิสลามเขียน "เฮร์แมสไม่มีลักษณะที่เป็นรูปธรรมหรือโดดเด่น ซึ่งแตกต่างจากบุคคลสำคัญส่วนใหญ่ในพระคัมภีร์ไบเบิลและอัลกุรอานในเรื่องนี้การตีความทั่วไปของการเป็นตัวแทนของ "ตริซเมกิสโตส" เป็น "ผู้ยิ่งใหญ่คนที่สาม" ทำให้นึกถึงลักษณะสามประการของอิดรีส: ในฐานะผู้ส่งสารของพระเจ้าหรือผู้เผยพระวจนะ; เป็นแหล่งของปัญญาหรือ ฮิกมะห์ (ภูมิปัญญาจาก hokhmah) ; และในฐานะราชาแห่งระเบียบโลกหรือ "สุลต่าน " เหล่านี้เรียกว่า müselles bin ni'me
นิกายบูชาดวงดาวที่รู้จักกันในชื่อศอเบียะอ์แห่งฮัรรอนยังเชื่อว่าหลักคำสอนของพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากเฮร์แมส ตริซเมกิสโตส
ดูเพิ่ม
[แก้]- เรื่องเล่าในพระคัมภีร์และอัลกุรอาน
- ตำนานและอัลกุรอาน
- มูฮัมหมัดในศาสนาอิสลาม
- ผู้เผยพระวจนะของศาสนาอิสลาม
- เรื่องราวของบรรดาผู้เผยพระวจนะ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Kīsāʾī, Qiṣaṣ, i, 81-5
- ↑ "İDRÎS - TDV İslâm Ansiklopedisi". islamansiklopedisi.org.tr (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-08-11.
- ↑ Erder, Yoram, “Idrīs”, in: Encyclopaedia of the Qurʾān, General Editor: Jane Dammen McAuliffe, Georgetown University, Washington DC.
- ↑ P. S. Alexander, "Jewish tradition in early Islam: The case of Enoch/Idrīs," in G. R. Hawting, J. A. Mojaddedi and A. Samely (eds.), Studies in Islamic and Middle Eastern texts and traditions in memory of Norman Calder ( jss Supp. 12), Oxford 2000, 11-29
- ↑ W.F. Albright, Review of Th. Boylan, The hermes of Egypt, in Journal of the Palestine Oriental Society 2 (1922), 190-8
- ↑ H. T. Halman, "Idris," in Holy People of the World: A Cross-Cultural Encyclopedia (ABC-CLIO, 2004), p. 388
- ↑ Qur'an 19:56-57 and Qur'an 21:85-86
- ↑ อัลกุรอาน 19:56–57
- ↑ Encyclopedia of Islam, "Idris", Juan Eduardo Campo, Infobase Publishing, 2009, pg. 344
- ↑ Encyclopedia of Islam, Juan Eduardo Campo, Infobase Publishing, 2009, pg. 559
- ↑ Encyclopedia of Islam, Juan Eduardo Campo, Infobase Publishing, 2009, pg. 344: (His translation made him) "Islamic tradition places him sometime between Adam and Noah."
- ↑ แม่แบบ:استشهاد بكتاب