วรพจน์ เพชรขุ้ม
วรพจน์ เพชรขุ้ม | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เกิด | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สัญชาติ | ไทย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การศึกษา | โรงเรียนบ้านใหญ่ โรงเรียนพนมศึกษา โรงเรียนท่าฉางวิทยาคาร โรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม วิทยาลัยทองสุข | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อาชีพ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อาชีพนักมวย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สัญชาติ | ไทย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รายการเหรียญรางวัล
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รับใช้ | ไทย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แผนก/ | กองทัพบกไทย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชั้นยศ | ร้อยตรี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ร้อยตรี วรพจน์ เพชรขุ้ม เกิดวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 ที่อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี อดีตนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นชาวไทย เจ้าของเหรียญเงินในแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน เมื่อปี พ.ศ. 2547 ที่สาธารณรัฐเฮลเลนิก[1] และได้รับเกียรติให้เป็นผู้เชิญธงชาติไทยนำขบวนนักกีฬาทีมชาติไทย ในพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 และในการแข่งขันมวยสากลในเอเชียนเกมส์ 2010 วรพจน์ชนะนักมวยจากประเทศจีน ซึ่งเป็นเจ้าภาพ และวรพจน์ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นับเป็นเหรียญทองแรกของวรพจน์ในเอเชียนเกมส์ เหรียญทองเดียวของมวยสากลสมัครเล่นไทยในการแข่งขันครั้งนี้ และเหรียญทองสุดท้ายของทีมชาติไทยในการแข่งขันครั้งนี้ ปัจจุบันรับราชการเป็นอาจารย์ประจำ กองการพลศึกษา ส่วนการศึกษา โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ประวัติ
[แก้]สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านใหญ่ และเข้าศึกษาในมัธยมศึกษาที่โรงเรียนพนมศึกษา (มัธยมศึกษาปีที่ 1) ก่อนย้ายไปโรงเรียนท่าฉางวิทยาคาร (มัธยมศึกษาปีที่ 2) และโรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และระดับปริญญาโทที่วิทยาลัยทองสุข
โอลิมปิกฤดูร้อน
[แก้]โอลิมปิกฤดูร้อน 2004
[แก้]วรพจน์ลงแข่งขันในรุ่นแบนตั้มเวท 54 กิโลกรัม ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยขึ้นแข่งขันกับคู่ชกดังต่อไปนี้
- รอบ 32 คนสุดท้าย: ชนะ คิมวอนลี จากเกาหลีใต้ 1-47 หมัด
- รอบ 16 คนสุดท้าย: ชนะ คาวาสซี คัตซีกอฟ จากเบลารุส 33-18 หมัด
- รอบ 8 คนสุดท้าย: ชนะ เนสเตอร์ โบรุม จากไนจีเรีย 29-14 หมัด
- รอบรองชนะเลิศ: ชนะ อักฮาซี มัมมาดอฟ จากอาเซอร์ไบจาน 22-19 หมัด
- รอบชิงชนะเลิศ: แพ้ กิลเลอร์โม ริกอนเดอ๊อกซ์ จากคิวบา 12-22 หมัด[2]
โอลิมปิกฤดูร้อน 2008
[แก้]ก่อนการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน วรพจน์ประกาศว่า ตนจะคว้าเหรียญทองให้ได้ เพื่อนำไปเป็นกำลังใจให้คุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง วรพจน์สามารถผ่านรอบแรกไปโดยไม่ต้องชก เนื่องจากจับสลากได้ผ่านโดยอัตโนมัติ ในรอบสองสามารถเอาชนะ วิตโตริโอ จาฮิน ปาร์ริเนลโล จากอิตาลี ไปได้ขาดลอย 12-1 หมัด[3] แต่รอบสาม หรือรอบ 8 คนสุดท้าย วรพจน์กลับแพ้ให้กับ แยนคีล ลีออน อลาร์คอน จากคิวบา 2-10 หมัด ที่เป็นตัวแทนของกิลเลอร์โม ริกอนเดอ๊อกซ์ คู่ชิงชนะเลิศที่สามารถเอาชนะวรพจน์ไปได้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว[4] โดยภายหลังการชก วรพจน์ถึงกับร่ำไห้ ที่ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลใดได้เลย[5]
โอลิมปิกฤดูร้อน 2012
[แก้]ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร วรพจน์ไม่อาจผ่านไปในรอบสุดท้ายในการแข่งขันได้ ด้วยเป็นฝ่ายแพ้ ชีวา ธาปา นักมวยชาวอินเดีย อายุ 18 ปี ไป 10-16 หมัด ในการแข่งขันคัดเลือกตัวที่ประเทศคาซัคสถาน เมื่อต้นเดือนเมษายน ปีเดียวกัน[6]
ผลงาน
[แก้]- เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 21 (บรูไน)
- เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 22 (เวียดนาม)
- เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 23 (ฟิลิปปินส์)
- เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 24 (ไทย)
- เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2006 (กาตาร์)
- เหรียญเงินโอลิมปิก 2004 (กรีซ)
- เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2010 (กว่างโจว จีน)
- เหรียญทองคิงส์คัพ
- เหรียญทองรายการนานาชาติ 2004 (อียิปต์)
กรณีถ่ายแบบ
[แก้]ในกลางปี พ.ศ. 2552 วรพจน์ตกเป็นข่าวฮือฮาตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่าได้ไปถ่ายแบบในกับนิตยสารฉบับหนึ่งในแบบวาบหวิว ทำให้ทางสมาคมมวยสากลสมัครเล่นลงโทษห้ามชกเป็นเวลา 3 เดือน[7]
กรณีการเลื่อนยศ
[แก้]กรณีข่าวดังการเลื่อนยศไวของ ร.ต.อ.หญิง แคท อาทิติยา เบ็ญจะปัก อายุ 27 ปี ฝ่ายเลขานุการด้านประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านหลักสูตร กอส. สามารถเลื่อนตำแหน่งจากชั้นประทวน ส.ต.ต.ถึง ร.ต.อ.หญิง โดยใช้เวลาเพียง 4 ปี
จ.ส.ต. วรพจน์ ระบุว่า ช่วงหนึ่งที่รู้สึกแย่ที่สุด คือ มีรุ่นน้องไปแข่งโอลิมปิกแต่ไม่ได้เหรียญ ได้เหรียญซีเกมส์ แต่รุ่นน้องคนนี้ เขาได้ติดยศเป็นนายทหาร ซึ่งระบบการเลื่อนยศ มันไม่แฟร์ ถ้าบอกทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ตนก็ทำ แต่การเลื่อนยศ มันไม่ใช่อยู่ที่ผลงาน หรือทำประโยชน์ เพื่อชาติ มันอยู่ที่ดวง
“ผมก็จบปริญญาโทตั้งแต่ปี 51 ตอนนี้หมดศรัทธาหมดใจแล้ว เตรียมยื่นใบลาออกจากราชการในเร็วๆ นี้ ขอฝากความหวัง หากรัฐบาลใหม่ จะเข้ามาแก้ไขดูแลเรื่องการเลื่อนยศให้เป็นธรรม”[8]
ดูเพิ่ม
[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 3 ตติยดิเรกคุณาภรณ์ (ต.ภ.)[9]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ นิพนธ์ ขาวอุบล. วรพจน์ เพชรขุ้ม 'รับใช้ชาติ 16 ปี..ผมพอแล้ว. มวยสยามรายวัน. ปีที่ 19 ฉบับที่ 6814. วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555. หน้า 16
- ↑ วรพจน์ เพชรขุ้ม นักมวยไทย จาก สุราษฎร์ธานี พ่ายไป 22 12 กลายเป็นนักชกเหรียญเงินคนที่สองของไทย
- ↑ โอลิมปิก 2008: วรพจน์ เพชรขุ้มทะลุชิงทองแดง หลังไล่ตะบันนักชกอิตาลีขาดลอย 12:1
- ↑ โอลิมปิก 2008: วรพจน์ เพชรขุ้มสุดต้าน แพ้นักชกคิวบาขาดลอย 2:10 หมัด
- ↑ "วรพจน์ เพชรขุ้ม ให้สัมภาษณ์หลังพลาดเข้ารอบรองชนะเลิศทั้งน้ำตา". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-23. สืบค้นเมื่อ 2009-04-07.
- ↑ ร่วงเรียบ!วรพจน์พ่ายนักชกโรตีวัย18ปีชวดตั๋วอลป. จากสยามสปอร์ต
- ↑ "วรพจน์ เพชรขุ้ม ถ่ายนู้ด นิตยสารเกย์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-08. สืบค้นเมื่อ 2010-04-07.
- ↑ วรพจน์ เพชรขุ้ม เปิดใจทำมา 23 ปี-ช่วยสร้างชื่อเสียง หมดศรัทธาแล้ว จ่อยื่นใบลาออก
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๔๘ เพิ่มเติม เก็บถาวร 2022-05-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๒, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๘
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2524
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักมวยสากลสมัครเล่นชาวไทยชุดโอลิมปิก 2004
- นักมวยสากลสมัครเล่นชาวไทยชุดโอลิมปิก 2008
- นักกีฬาเหรียญทองซีเกมส์ชาวไทย
- นักกีฬาเหรียญทองเอเชียนเกมส์ชาวไทย
- นักกีฬาเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ชาวไทย
- นักกีฬาไทยที่ได้เหรียญเงินโอลิมปิก
- บุคคลจากอำเภอพนม
- ทหารบกชาวไทย
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ
- บุคคลจากวิทยาลัยทองสุข
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
- นักมวยจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี