ปีศาจโดเวอร์
ปีศาจโดเวอร์ (อังกฤษ: Dover Demon) เป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ปรากฏตัวที่เมืองโดเวอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันที่ 21 เมษายนต่อกับวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 1977 ตามคำกล่าวอ้างของวัยรุ่นชาวอเมริกัน 4 คน ใน 3 เหตุการณ์ 3 สถานที่ แต่ทั้ง 3 สถานที่นั้นเชื่อมต่อถึงกัน โดยทั้งหมดอยู่ในรัศมีราว 2.5 ไมล์[1]
การพบเห็น
[แก้]เหตุการณ์แรก
ในคืนวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1977 เวลา 22:30 น. ขณะที่ บิลล์ บาร์ทเล็ทท์, ไมค์ แมซซอคคา และแอนดี บรอดี วัยรุ่นอายุ 17 ปี กำลังขับรถไปทางตอนเหนือของถนนฟาร์มสตรีท หลังกลับจากงานเลี้ยงสังสรรค์ โดยบาร์ทเล็ทท์ซึ่งเป็นคนขับ ก็ได้เห็นสิ่งประหลาดสิ่งหนึ่งกำลังปีนไปตามกำแพงเตี้ย ๆ ทางด้านซ้ายของถนน
ครั้งแรกที่เห็นบาร์ทเล็ทท์คิดว่าอาจเป็นสุนัขหรือไม่ก็แมว จนกระทั่งไฟหน้ารถได้ฉายตกกระทบกับสิ่งนั้นเข้าอย่างจัง สิ่งที่เขาเห็นนั้น เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต บาร์ทเล็ทท์กล่าวว่า ร่างนั้นค่อย ๆ หมุนศีรษะของมันอย่างช้า ๆ และจ้องมองมายังแสงไฟของรถ ตาของมันกลมโตส่องประกายราวกับแก้วใส เหมือนหินอ่อนสีส้ม 2 ลูก ไม่มีจมูก หู หรือปาก หัวของมันตั้งอยู่บนคอเล็ก ๆ มีลักษณะคล้ายแตงโม มองดูแล้วผิดสัดส่วน เมื่อเทียบกับร่างกายส่วนอื่น ๆ กล่าวคือแขนและขายาวและผอมเรียว แต่มือและเท้าใหญ่ ผิวไม่มีขนและมีสีลูกพีช และหยาบเหมือนกระดาษทราย ร่างนั้นมันสูงไม่เกิน 4 ฟุต มีลักษณะคล้ายเด็กทารกที่มีแขนและขายาว ดูน่าประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวมาก มันเดินเหมือนกับว่ามันไม่รู้จุดมุ่งหมาย มันเดินไปตามกำแพงโดยใช้นิ้วมืออันยาวของมันไต่ตามก้อนหิน
ขณะเดียวกันนั้น เพื่อน ๆ ของบาร์เล็ทท์อีก 2 คนไม่เห็น เพราะกำลังหันหน้ามองไปอีกทางหนึ่ง อีกทั้งบาร์ทเล็ทท์ก็เห็นร่างนั้นไม่กี่วินาทีเท่านั้นเองเพราะเขาขับรถด้วยความเร็วสูงและอยู่ในทางโค้ง และเมื่อแล่นผ่านจุดนั้นแล้ว บาร์ทเล็ทท์ได้หยุดและเล่าเรื่องนี้ให้ทั้ง 2 คนนั้นฟัง ทีแรกทั้ง 2 ไม่เชื่อ แต่จากน้ำเสียงและกริยาที่ตื่นเต้นของบาร์ทเล็ทท์ ทำให้ทั้ง 2 สนใจ และคะยั้นคะยอให้เขาขับรถกลับไปดูอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อกลับไปในราว 10 นาทีให้หลัง[1] สิ่งมีชีวิตลึกลับนั้นได้หายไปแล้ว และเมื่อทั้ง 3 กลับมาที่พักบาร์ทเล็ทท์ก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังพร้อมกับวาดภาพของมันให้เพื่อน ๆ ได้ดู[2]
เหตุการณ์ที่สอง
ในคืนเดียวกันนั้นเอง เวลา 0:30 น. (ตรงกับวันที่ 22 เมษายน) จอห์น แบกซ์เตอร์ อายุ 15 ปี ขณะกำลังเดินกลับมาจากบ้านแฟนสาว เขามุ่งหน้ากลับบ้านซึ่งอยู่ทางใต้สุดของถนนมิลเลอร์ฮิลล์ โดยใช้เส้นทางลัดตัดสู่บ้านเขา อีกประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ จุดตัดระหว่างถนนมิลเลอร์ฮิลล์และฟาร์มสตรีท เขาได้เห็นร่างหนึ่งสวนทางมา ห่างจากเขาไปราว 150 ฟุต ร่างนั้นเตี้ยมาก จอห์นคิดว่าคงเป็น เอ็ม.จี.บูชาร์ด เด็กคนหนึ่งที่อาศัยอยู่บนถนนเดียวกับเขา เอ็ม.จี. เป็นเด็กพิการที่มีศีรษะโตเนื่องจากโรคในวัยเด็ก จอห์นจึงถามไปว่า ใช่ เอ็ม.จี.หรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบ แต่ร่างนั้นเดินใกล้เข้ามาทุกที จนร่างนั้นได้หยุดลง ในระยะที่ห่างออกไปราว 15 ฟุต เผอิญคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด และจอห์นก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากเงาสลัว ๆ เขาจึงก้าวเข้าไปหาอีก 1 ก้าว เพื่อให้รู้แน่ว่าร่างนั้นเป็นใคร แต่มันกลับถอยออกไปทางซ้ายและวิ่งเข้าไปยังคูข้างทางที่มีพุ่มไม้ขึ้นอยู่เต็มแล้ววิ่งกลับไปยังฝั่งตรงข้าม ขณะที่ร่างนั้นวิ่งอยู่ จอห์นก็วิ่งตามด้วย เขาได้ยินเสียงกิ่งไม้แห้งดังกรอบแกรบ จอห์นวิ่งตามร่างนั้นจนถึงเนินข้างล่าง แล้วมันก็หยุดเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งของคู และจอห์นก็ได้เห็นมัน จอห์นบรรยายว่า มันยืนห่างจากเขาประมาณ 30 ฟุต เท้าของมันพันหรือรวบบนยอดก้อนหินก้อนหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ต้นไม้ต้นหนึ่ง มันเอนร่างไปเกาะต้นไม้ โดยเอานิ้วมือที่ยาวทั้งสองข้างจับมั่นรอบ ๆ ลำต้นซึ่งมีขนาดเส้นรอบวงประมาณ 8 นิ้ว ราวกับยันร่างมันไว้ ร่างนั้นเหมือนกับร่างของลิง ต่างกันที่มันมีศีรษะสีคล้ำเป็นรูปเลข 8 ตาของมันเป็นประกายวาวอยู่ตรงกลางศีรษะ และแล้วร่างประหลาดลึกลับนั้นก็มองกลับมาด้วยตาสีเขียวมายังจอห์น เขาไม่เคยเห็นสัตว์อะไรอย่างนี้มาก่อน เขาจึงรีบวิ่งกลับมาที่บ้านทันที และเขาก็ได้วาดภาพสัตว์ประหลาดดังกล่าว ซึ่งนับเป็นภาพของปีศาจโดเวอร์ภาพที่ 2
เหตุการณ์ที่สาม
ในวันต่อมา (22 เมษายน) เวลาประมาณเที่ยงคืน แอ็บบี อับราฮัม อายุ 15 ปี และ วิลล์ เทนเตอร์ อายุ 18 ปี กำลังขับรถลงใต้จากสปริงดาลอเวนิว ทั้งคู่อ้างว่าพบเห็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่รูปร่างคล้ายคลึงกันนี้ที่ข้างทาง โดยแอ็บบีอธิบายว่า มันมีตาสีเขียวเมื่อมองจากแสงไฟหน้ารถที่สาดเข้าใส่ และมีรูปร่างพอ ๆ กับแพะ[3][4]
การพิสูจน์ความจริง
[แก้]เมื่อข่าวนี้ได้แพร่กระจายออกไป สื่อมวลชนโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ได้เรียกขานชื่อของสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้ว่า ปีศาจโดเวอร์ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ วอลเตอร์ เว็บบ์ แห่งองค์กรวิจัยปรากฏการณ์บนท้องฟ้า กับโจเซฟ นีแมน แห่งสมาคมข่ายงานศึกษาจานบินร่วมกัน และ เอ็ด ฟอกก์ แห่งสมาคมศึกษาจานบินของนิวอิงแลนด์ ได้เข้าร่วมศึกษาบุคคลที่ประสบเหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งแม้ว่าในช่วงที่ผู้คนพบเห็นปีศาจโดเวอร์จะไม่เห็นจานบินลึกลับใด ๆ เลยก็ตาม แต่นักจานบินวิทยาทั้งหลายเหล่านี้ให้ความสนใจก็เพราะรูปร่างของมันคล้ายกับมนุษย์ต่างดาวชนิดที่เรียกว่า เกรย์ (Grey) มาก
จากการสอบสวนผู้พบเห็นทั้ง 4 คน และพยานแวดล้อมอื่น ๆ พบว่าทั้ง 4 คนไม่ใช่คนเหลวไหล อีกทั้งเด็กเหล่านี้มีภูมิหลังดี ฐานะดี จึงไม่จำเป็นต้องหลอกหลวงคนอื่น และที่สำคัญเด็กทั้ง 4 คนนี้ไม่เคยพยายามเข้าหาหนังสือพิมพ์เพื่อรายงานเรื่องของตนไปลงเพื่อเอาเงินแต่อย่างใด [5]
จากลักษณะของปีศาจโดเวอร์ที่ทั้ง 4 ได้พบเห็น คล้ายกับปีศาจในตำนานพื้นเมืองของอินเดียแดงเผ่าครี ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในรัฐมอนแทนา ติดกับประเทศแคนาดา ที่เรียกว่า "แมนนีกิชี" (Mannegishi) มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ศีรษะกลมโตใหญ่ บนใบหน้าไม่มีอวัยะใด ๆ ปรากฏนอกจากดวงตากลมโต มีนิ้วมือและนิ้วเท้าเรียวยาว แต่แขนและขาเรียวเล็กผิดสัดส่วน อาศัยอยู่ตามหุบผาและแม่น้ำลำธาร มีพฤติกรรมชอบปรากฏตัวเพื่อหลอกนักเดินทางให้ตกใจเล่น [4]
มีข้อสันนิษฐานว่า สิ่งที่ทั้งหมดเห็นเป็นปีศาจโดเวอร์นั่น อาจจะเป็นลูกกวางมูสหรือลูกม้าที่เพิ่งคลอด แต่ก็ไม่มีรายงานของการเกิดของสัตว์ที่ว่าในเมืองโดเวอร์ในช่วงนั้น [2]
จนถึงปัจจุบันนี้ เรื่องราวของปีศาจโดเวอร์ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ ไม่มีใครทราบว่ามันคือตัวอะไร มาอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นได้อย่างไรและมีจุดประสงค์อย่างไร เพราะนับตั้งแต่คืนนั้นแล้ว ก็ไม่มีใครพบเห็นสิ่งมีชีวิตลักษณะดังกล่าวนี้อีกเลย [4] แต่ถึงอย่างไรเรื่องราวของปีศาจโดเวอร์ก็ได้ปรากฏในวัฒนธรรมร่วมสมัยด้วย เช่น สารคดีชุด Lost Tapes ปีที่ 2 ของช่องดิสคัฟเวอรี ในตอนที่มีชื่อว่า Dover Demon[6]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Monsters and Mysteries in America (TV Series 2013– ) ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- ↑ 2.0 2.1 Sullivan, Mark (October 29, 2006). "Decades later, the Dover Demon still haunts". The Boston Globe. สืบค้นเมื่อ 7 March 2014.
- ↑ "The Dever Demon". subversiveelement.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 "Decades later, the Dover Demon still haunts". boston.com.
- ↑ "Teeners report 'creature'". Associated Press. May 16, 1977. สืบค้นเมื่อ 10 March 2014.
- ↑ "Lost Tapes" Dover Demon (TV Episode 2009) ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]หนังสืออ่านเพิ่มเติม
[แก้]- Loren Coleman, Mysterious America: The Revised Edition (NY: Paraview, 2001, ISBN 1-931044-05-8)