มิลาน
มิลาน Milano (อิตาลี) | |
---|---|
Comune di Milano เทศบาลมิลาน | |
ตามเข็มจากบน: ปอร์ตานูโอวา, ปราสาทสฟอร์ซา, ลาสกาลา, กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซคอนโด, สถานีรถไฟกลางมิลาน, ประตูสันติ และอาสนวิหารมิลาน | |
พิกัด: 45°28′01″N 09°11′24″E / 45.46694°N 9.19000°E | |
ประเทศ | อิตาลี |
แคว้น | ลอมบาร์เดีย |
เขตมหานคร | มิลาน (MI) |
การปกครอง | |
• องค์กร | สภาเทศบาล |
พื้นที่ | |
• เทศบาล | 181.76 ตร.กม. (70.18 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 120 เมตร (390 ฟุต) |
ประชากร (31 ธ.ค. 2018)[1] | |
• เทศบาล | 1,395,274 คน |
• ความหนาแน่น | 7,700 คน/ตร.กม. (20,000 คน/ตร.ไมล์) |
• รวมปริมณฑล[2] | 4,336,121 คน |
เดมะนิม | Milanese Meneghino[3] |
รหัสพื้นที่ | 0039 02 |
เว็บไซต์ | www.comune.milano.it |
มิลาน (อังกฤษ: Milan) หรือ มีลาโน (อิตาลี: Milano) เป็นเมืองเอกของแคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี ถือเป็นนครที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากกรุงโรม มิลานเคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันตะวันตก, แกรนด์ดัชชีมิลาน และราชอาณาจักรลอมบาร์เดีย-เวนิส ตัวเมืองเก่ามิลานมีประชากรราว 1.4 ล้านคน ขณะที่ทั้งเขตเทศมณฑลมิลานจะมีประชากร 3.23 ล้านคน นครมิลานและปริมณฑลมีประชากรรวมกว่า 8.2 ล้านคน มิลานมีอัตราการก่อสร้างขยายเขตเมืองที่เร็วเป็นอันดับสี่ในสหภาพยุโรป เขตมหานครมิลานเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี และใหญ่เป็นอันดับสี่ในสหภาพยุโรป
มิลานได้รับการยอมรับนับถือเป็นหนึ่งในเมืองแถวหน้าของโลก[4] ทั้งในด้านศิลปะ, การค้า, การออกแบบ, การศึกษา, แฟชั่น, สื่อ, การเงิน, การวิจัย และการท่องเที่ยว เขตธุรกิจในนครมิลานเป็นที่ตั้งของอาคารตลาดหลักทรัพย์อิตาลี และเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ธนาคารและบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่หลายแห่ง และยังเป็นฐานของทีมฟุตบอลแถวหน้าของทวีปอย่างเอซี มิลาน ภาคเศรษฐกิจของนครมิลานมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของสหภาพยุโรปรองจากกรุงปารีส นับเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดที่ไม่ใช่เมืองหลวงในทวีปยุโรป[5]
มิลานได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่เมืองหลวงด้านแฟชั่นของโลก[6] ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการจัดงานนิทรรศการนานาชาติที่บ่อยครั้งในแต่ละปี งานที่ใหญ่ที่สุดของแต่ละปีคือมิลานแฟชั่นวีค และมิลานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ สองงานนี้ถือเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกในแง่รายได้, ผู้เข้าชม และอัตราเติบโต[7][8][9] นครมิลานเคยเป็นสถานที่จัดงานนิทรรศการโลกถึงสองครั้งในปี 1906 และ 2015 นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสถาบันวัฒนธรรม, สถาบันการศึกษา และมหาวิทยาลัยจำนวนมาก นักศึกษาทั้งหมดในมิลานมีจำนวนคิดเป็น 11% ของทั้งอิตาลี[10] นครมิลานมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนกว่า 8 ล้านคนในแต่ละปี ซึ่งต่างมาชื่นชมพิพิธภัณฑ์, ห้องจัดแสดง รวมถึงชื่นชมงานจิตรกรรมชิ้นสำคัญของศิลปินเอกอย่างเลโอนาร์โด ดา วินชี
เทศมณฑลมิลานแบ่งเขตการปกครองออกเป็นเขตสุขาภิบาล ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นหมายเลข ตั้งแต่เขต 1 ถึงเขต 9 และมีการแบ่งย่านออกเป็น 20 โซน
ศิลปะ
[แก้]โคร์เวตโต (อังกฤษ: Corvetto) คือเขตศิลปะร่วมสมัยของมิลาน[11][12][13][14][15]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สถาปัตยกรรม
[แก้]ในมิลานมีสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือมายากยุคเป็นอาณานิคมของโรมันโบราณเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น แห่งที่มีชื่อเสียงและมีสภาพดีที่สุดคือ เสาแห่งซันลอเรนโซ (Colonne di San Lorenzo) ในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 4 (ค.ศ. 351-400) นักบุญอัมโบรซิอุส มุขนายกแห่งมิลาน เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการวางผังเมืองมิลาน ท่านได้เปลี่ยนทัศนียภาพของใจกลางเมืองครั้งใหญ่ และสร้างมหาวิหารอันใหญ่โตสี่แห่งไว้ที่ประตูเมือง ได้แก่ซันอัมโบรจิโอ, ซันนาซาโรอินโบรโล, ซันซิมปลิซีอาโน และซันตุสตอร์จิโอ ซึ่งยังคงตั้งอยู่จนถึงปัจจุบัน
โบสถ์คริสต์ที่สำคัญและงดงามที่สุดของเมืองอย่างอาสนวิหารมิลาน (Duomo di Milano) ถูกสร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1386 ถึง 1577 ถือเป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก และเป็นแบบอย่างสถาปัตยกรรมกอทิกที่สำคัญที่สุดในอิตาลี มีการเชิญรูปหล่อทองแดงปิดทองของพระนางมารีย์พรหมจารีไว้ที่ยอดของวิหารในปีค.ศ. 1774 และกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของมิลาน[16]
ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ระหว่างที่ราชวงศ์สฟอร์ซาปกครองมิลาน มีการขยายปราการวิสคอนเตอันและตกแต่งใหม่จนกลายเป็นปราสาทสฟอร์ซา ถือเป็นอาคารราชสำนักแบบสถาปัตยกรรมเรอแนซ็องส์ที่รายล้อมไปด้วยกำแพงอุทยานล่าสัตว์ ราชวงศ์สฟอร์ซาถือเป็นพันธมิตรกับโกซีโม เด เมดีชี แห่งนครฟลอเรนซ์ จึงทำให้มีสถาปัตยกรรมเรอแนซ็องส์แบบตอสกานามาปรากฏในมิลานด้วย
เศรษฐกิจ
[แก้]ถ้าโรมเป็นเมืองหลวงของอิตาลี มิลานก็เป็นดั่งหัวใจด้านการเงินและอุตสากรรมของอิตาลี ในปี 2014 มิลานเมืองเดียวมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ถึง 1.58 แสนล้านยูโร[17] จังหวัดมิลานสร้างรายได้คิดเป็นราว 10% ของรายได้ประเทศ ในขณะที่ทั้งแคว้นลอมบาร์เดียสร้างรายได้ราว 22% ของรายได้ประเทศ[18] (พอๆกับประเทศเบลเยียม) จังหวัดมิลานเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่บริษัท 45% ในแคว้นลอมบาร์เดียและ 8% ในอิตาลี
มิลานเป็นเมืองที่แพงที่สุดเป็นอันดับ 11 ของทวีปยุโรป และเป็นอันดับ 22 ของโลกในปีค.ศ. 2019[19] ถนนสายวีอามอนเตนโปเลียน(Via Monte Napoleone)ในมิลานเป็นถนนสายช็อปปิ้งที่แพงที่สุดในยุโรปตามการจัดอันดับของบริษัทรับคืนภาษี Global Blue[20]
มิลานเป็นศูนย์กลางการเงินและการธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี บริษัทประกันและเครือธนาคารยักษ์ใหญ่จำนวนมากของอิตาลี ตลอดจนบริษัทประกันและธนาคารต่างชาติกว่าสี่สิบรายล้วนตั้งอยู่ในมิลาน[21] ตลาดหลักทรัพย์อิตาลีก็มีที่ตั้งอยู่ในมิลาน
ภูมิอากาศ
[แก้]ข้อมูลภูมิอากาศของนครมิลาน (ท่าอากาศยานลินาเต) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 21.7 (71.1) |
23.8 (74.8) |
26.9 (80.4) |
32.4 (90.3) |
35.5 (95.9) |
36.6 (97.9) |
37.2 (99) |
36.9 (98.4) |
33.0 (91.4) |
28.2 (82.8) |
23.0 (73.4) |
21.2 (70.2) |
37.2 (99) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 5.9 (42.6) |
9.0 (48.2) |
14.3 (57.7) |
17.4 (63.3) |
22.3 (72.1) |
26.2 (79.2) |
29.2 (84.6) |
28.5 (83.3) |
24.4 (75.9) |
17.8 (64) |
10.7 (51.3) |
6.4 (43.5) |
17.7 (63.9) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 2.5 (36.5) |
4.7 (40.5) |
9.0 (48.2) |
12.2 (54) |
17.0 (62.6) |
20.8 (69.4) |
23.6 (74.5) |
23.0 (73.4) |
19.2 (66.6) |
13.4 (56.1) |
7.2 (45) |
3.3 (37.9) |
13.0 (55.4) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | -0.9 (30.4) |
0.3 (32.5) |
3.8 (38.8) |
7.0 (44.6) |
11.6 (52.9) |
15.4 (59.7) |
18.0 (64.4) |
17.6 (63.7) |
14.0 (57.2) |
9.0 (48.2) |
3.7 (38.7) |
0.1 (32.2) |
8.3 (46.9) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -15.0 (5) |
-15.6 (3.9) |
-7.4 (18.7) |
-2.5 (27.5) |
-0.8 (30.6) |
5.6 (42.1) |
8.4 (47.1) |
8.0 (46.4) |
3.0 (37.4) |
-2.3 (27.9) |
-6.2 (20.8) |
-13.6 (7.5) |
−15.6 (3.9) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 58.7 (2.311) |
49.2 (1.937) |
65.0 (2.559) |
75.5 (2.972) |
95.5 (3.76) |
66.7 (2.626) |
66.8 (2.63) |
88.8 (3.496) |
93.1 (3.665) |
122.4 (4.819) |
76.7 (3.02) |
61.7 (2.429) |
920.1 (36.224) |
ความชื้นร้อยละ | 86 | 78 | 71 | 75 | 72 | 71 | 71 | 72 | 74 | 81 | 85 | 86 | 77 |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 1.0 mm) | 6.7 | 5.3 | 6.7 | 8.1 | 8.9 | 7.7 | 5.4 | 7.1 | 6.1 | 8.3 | 6.4 | 6.3 | 83.0 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 58.9 | 96.1 | 151.9 | 177.0 | 210.8 | 243.0 | 285.2 | 251.1 | 186.0 | 130.2 | 66.0 | 58.9 | 1,915.1 |
แหล่งที่มา: Servizio Meteorologico[22][23][24] |
ลิงก์
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Resident population by age, nationality and borough". Comune di Milano. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-13. สืบค้นเมื่อ 2020-02-24.
- ↑ "Database". ec.europa.eu. Eurostat. click General and regional statistics / Regional statistics by typology / Metropolitan regions / Demography statistics by metropolitan regions / Population on 1 January by broad age group, sex and metropolitan regions (met_pjanaggr3)
- ↑ In reference to the Meneghino mask.
- ↑ "GaWC - The World According to GaWC 2018". www.lboro.ac.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-03. สืบค้นเมื่อ 16 December 2019.
- ↑ Gert-Jan Hospers (2002). "Beyond the Blue Banana? Structural Change in Europe's Geo-Economy" (PDF). 42nd EUROPEAN CONGRESS of the Regional Science Association Young Scientist Session – Submission for EPAINOS Award 27–31 August 2002 – Dortmund, Germany. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 29 September 2007. สืบค้นเมื่อ 27 September 2006.
- ↑ Shaw, Catherine (17 July 2016). "Milan, the 'world's design capital', takes steps to attract visitors year-round". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 15 October 2017.
- ↑ "Fashion". The Global Language Monitor. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 1 มิถุนายน 2011.
- ↑ "Milan, Italy | frog". Frogdesign.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 May 2011. สืบค้นเมื่อ 1 June 2011.
- ↑ "Milan Furniture Fair". Monocle.com. 30 เมษายน 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 กรกฎาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2012.
- ↑ "University and research in Milan". Province of Milan. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2013. สืบค้นเมื่อ 4 November 2012.
- ↑ Via Romilli: ศิลปะร่วมสมัยเบ่งบานในมิลาน, Artribune, มีนาคม 2024
- ↑ Fondazione Galleria Milano: โครงการใหม่สำหรับศิลปะร่วมสมัย, Artribune, มกราคม 2024
- ↑ Via Romilli ที่มิลาน: เขตศิลปะร่วมสมัยใหม่, Exalto, 2024
- ↑ จาก Montenapo ถึง Corvetto: แกลเลอรีและโครงการเดินทางกำลังเบ่งบาน, Il Giorno, 2024
- ↑ Corvetto ArtWeek: ศิลปะครอบงำย่าน, Viafarini, 2024
- ↑ Wilson, Sharon (2011). A perfect trip to Italy in the golden years. Bloomington, IN: iUniverse Inc. p. 93. ISBN 978-1-4502-8443-1.
- ↑ "Gross domestic product (GDP) at current market prices by NUTS 3 regions". Eurostat. สืบค้นเมื่อ 7 December 2017.
- ↑ "Gross domestic product (GDP) at current market prices by NUTS 2 regions". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 October 2014. สืบค้นเมื่อ 15 November 2017.
- ↑ Beswick, Emma (19 March 2019). "Europe is home to some of the most expensive cities in the world in 2019 — where are they?". Euronews. สืบค้นเมื่อ 30 December 2019.
- ↑ ""Montenapoleone ha un primato: scontrino medio 1.800 euro, via più cara d'Europa"". MilanoToday. สืบค้นเมื่อ 14 February 2018.
- ↑ "Milan: city profile". Municipality of Milan. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 March 2016. สืบค้นเมื่อ 29 May 2021.
- ↑ "Milano/Linate (MI)" (PDF). Servizio Meteorologico. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ June 14, 2016. สืบค้นเมื่อ December 11, 2014.
- ↑ "Stazione 080 Milano-Linate: Medie Mensili Periodo 1961–90". Servizio Meteorologico. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 14, 2016. สืบค้นเมื่อ December 11, 2014.
- ↑ "Milano Linate: Record mensili dal 1946" (ภาษาอิตาลี). Servizio Meteorologico dell'Aeronautica Militare. สืบค้นเมื่อ December 11, 2014.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ มิลาน
- เว็บไซต์เทศบาลมิลาน